วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดินทางเที่ยวน่านโดยรถไฟจากหาดใหญ่

 เดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ


มีอินบ๊อกกันมามากมายเลยครับ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแบบผม โฟสนี้จะมาเรียบเรียงให้แล้วกัน

-----
เริ่มต้นเชคตารางเดินรถไฟก่อน ผมเริ่มจากหาดใหญ่แล้วกันครับ
ผมเลือก ขบวนที่32 ด่วนพิเศษ CNR




ไปถึงกรุงเทพก็ประมาณเที่ยงๆครับ แล้วก็ต่อรถไฟ ชบวนที่ 10 รถออก 13.45 ถึงพิษณุโลก20.35

โรงแรมที่พิษณุโลกมีเยอะเลยครับหลายราคา อันนี้ก็เชคตามงบประมาณกันเองนะครับแต่ที่สะดวกสุดก็หน้าสถาณีรถไฟเลยครับ
ผมพักที่นี่1คืนแล้วเช้าก็ไปไหว้พระที่วิหารพระพุทธชินราช สักพักก็มาอาน้ำเก็บของเพื่อเดินทางต่อเข้าเด่นชัย ด้วยรถไฟขบวนที่ 111 เวลาออกที่พิษณุโลก 13.45 ถึงเด่นชัย 16.30
แล้วก็ต่อรถสองแถวเข้าแพร่ต่อเยครับเพราะจะไปพระธาตุช่อแฮ และวัดจอมสวรรค์
แต่ถ้าจะเข้าน่านเลยก็ได้ครับจะมีรถตู้หน้าสถานีเด่นชัยเลยครับ
มามาพักที่ไอสบายเป็นโฮสเทลเจ้าของบริการดีมาก

พอถึงแพร่จะมีรถเช่าราคามอร์ไซ​คัน200บาท
พอช่วงสายๆก็ต่อรถเข้าน่าน
ไปพักที่ลุงหนึ่งโฮมสเตย์​คืนละ300 ต่อห้อง(นอนได้2คน)​
เช้าก็เช่ามอร์ไซ​วันละ300 ผมเช่า4วันเลย
เดินทางขี่ทั่วน่าน


https://maps.app.goo.gl/9dj2VQPwxM8MbMFS6


https://maps.app.goo.gl/9dj2VQPwxM8MbMFS6

ตามลิ้งนี่เลยครับ เพื่อนๆลองเลือกๆเอาแล้วกันว่าจะไปไหนบ้าง
โฟสนี่ขอลงคร่าวๆก่อนนะครับ

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ดอกไม้ของฉัน My flower



ดอกไม้ของฉัน
My flower

   ทุกๆเข้าผมชอบออกมาเดินเล่นตรงทางเดินริมคลอง ที่ข้างทางมีดอกไม้ที่เป็นวัชพืช หลายๆคนอาจไม่
สนใจ แต่ผมกลับชอบมัน "ดอกจิงจ้อเล็ก" 

ดอกสีขาวอมเหลือง มันไม่สวยงามเหมือนดอกไม้มีค่าชนิดที่อยู่ในแจกันหรอก แต่ผมว่ามันสวยในที่ของมัน และบังเอิญเพื่อนของผมบอกมาผ่านเฟสบุ๊คว่าเขาเรียกว่า"ดอกโชคดี" เพราะเวลาที่เขาเดินไปโรงเรียน อาจจะนานมากแล้ว ฮ่าๆๆ วันในเขาไม่สบายใจก็เก็บเจ้าดอกจิงจ้อไปด้วย วันนั้นเขาโชคดีทั้งวัน (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)แต่ผมว่ามันก็ดีนะ ในยามที่ทุกข์ใจอย่างน้อยก็มีสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ทำให้สบายใจ ส่วนตัวผมก็ถือว่าโชคดีที่ได้เห็นดอกจิงจ้อ 

      ดอกไม้สีขาวนวล
     ไม่มีกลิ่นเย้าให้หลงไหล
      แต่ตรึงใจ...ที่มอง

......................................................

       แต่...เจ้าดอกจิงจ้อ ก็ได้ชื่อว่าดอกไม้ ที่ทำตัวติดดิน ที่ผมคิดว่าสวยงามไม่แพ้ดอกไม้ที่คนนิยมกัน     หรอก เพียงแต่ว่าใครคนนั้นจะมอง และก็มองว่า เป็นดอกไม้ของฉัน  My Flower.

                                          

     














ภาพ: ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ 

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ท่านางหอม - ปากพะยูน



ท่านางหอม - ปากพะยูน


    ปากพะยูนเป็นเมืองเล็กๆที่ติดทะเล เงียบสงบ ซึ่งห่างจากบ้านผม (บ้านท่านางหอม) ไม่ไกลมาก
ประมาณ50 กิโลเมตร ซึ่งผมสามรถขี่มอร์ไซไปเรื่อยๆได้ถนนรถวิ่งไม่เยอะมาก สองข้างทางจากท่านาง
หอมผ่านริมทะเลสาบสงขลา ทุ่งนา สวนยางพารา ผมว่าเป็นวิวระหว่าทางที่แตกต่างกันเรื่อยๆเหมาะ
สำหรับขี่มอร์เตอร์ไซมาก



มีจะวะพักหลายที่ ผมแวะกินอาหารร้านพี่มาดบางหยี เป็นร้านติดริมคลอง ตรงข้ามตลาดน้ำบางกล่ำ และวัดบางหยี







เมื่ออิ่มก็ออกเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปเป็นตลาดควนเนียง หลังสถานีรถไฟควนเนียงมีทุกวัน

ผ่านมาผมก็จะแวะทานน้ำแข็งใสเจ้าประจำที่ขายมากว่า60ปี ยายเล่าว่าขายช่วยแม่ตั้งแต่เด็กแล้ว เป็น

เจ้าแรกที่ขาย รถเข็นคันนี้เป็นคันที่สามแล้ว ผมทานไปก็คุยกับยายไปเรื่อยๆ แกน่ารักคุยเป็นกันเอง



พักรถสักพักผมก็ออกเดินทางต่อ ไปปากพะยูนก็ไม่ไกลแล้ว ระหว่างทางมีทุ่งนา ถ้าไปช่วงทำนาข้าวจะสวยมาก ผมไปถึงหลังเที่ยงก็เลยไปที่พักเลย ที่พักประจำห้อพัง450 บาทมีครบ ติดทะเล


ได้ที่พักแล้ว ก็ได้เวลาเดินเที่ยวเมืองปากพะยูนกัน



















เดินเข้ามาในตลาด มีร้านกาแฟอยู่ริมสุดในตลาดติดทะเล บรรยากาศดีมาก ผมแวะนั่งดื่มกาแฟโบราณ

และข้าวยำ













ผมเดินชมเมืองเรื่อยๆจนถึงค่ำ แล้วก็กลับที่พัก  เพราะพรุ่งนี้ก่อนกลับมีร้านก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยอีกร้านอยู่กลางทุ่งนา ห่างจากท่าเรือปากพะยูนไม่ไกลนัก กะไปทานแล้วกลับท่านางหอม

       พอได้เวลาเชคเอ้าท์ ผมก๊่ขี่มอร์ไซไปกินก๋วยเตี๋ยวกัน มีชื่อร้านว่า มาดูนา













ทริปนี้ก็เป็นวันพักผ่อนง่ายๆของผม ระยะทางใกล้ๆ ปากพะยูนเป็นเมืองเล็กๆที่น่าอยู่มากครับ
ว่างเมื่อไหร่ผมจะไปอีก